แบ่งสรรที่ดินรกร้างว่างเปล่าของเมืองในเมือง เพื่อปรับปรุงที่อยู่ที่อาศัยราคาย่อมเยาเป็นผลประโยชน์ให้แก่พลเมืองที่ช่วยขับเศรษฐกิจในเมือง
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติยศ รองพิธีกรพรรคเพื่อไทย เศรษฐกิจ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (6 เดือนตุลาคม) ว่าหากแม้มีกระแสสังคมยับยั้งถึงการออกกฎกระทรวงกล่าวถึงการครอบครองที่ดินของคนต่างประเทศ ที่ลงความเห็นการสัมมนาคณะรัฐมนตรี ออกมาเมื่อตอน 2 อาทิตย์ก่อนหน้าที่ผ่านมา แม้กระนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชะ นายกฯแล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็ไม่มีท่าทางว่าจะเลิกความตั้งอกตั้งใจสำหรับเพื่อการปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับฉบับนี้
รองผู้ประกาศพรรคเพื่อไทยรายนี้ ที่ตระเตรียมลงเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดจังหวัดสุรินทร์ คิดว่าขณะนี้ พล.อำเภอประยุทธ์จำต้องเลิกห่วงอับอายขายหน้า หันมาห่วงเสียแผ่นดินบ้าง ด้วยเหตุว่าแนวความคิดการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเอาที่ดินของชาติไปแลกเปลี่ยน ได้รับฉันทาความเห็นชอบต่อต้านต้านทานจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยแล้ว กระทั่งจากกรุ๊ปที่เคยเป็นผู้นิยมตัวพล.อ.ประยุทธ์เองก็ไม่เห็นพ้อง
นายชนินทร์ พูดว่า ก่อนหน้าที่ผ่านมาการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ รัฐบาลที่นำโดยไทยรักไทย พลังพลเมือง และก็เพื่อไทย มีแนวทางปฏิบัติมากมายแบบอย่าง แม้กระนั้นยังไม่เคยมองเห็นรัฐบาลใดจนกรอบขนาดจำเป็นต้องลดหย่อนข้อบังคับขายที่ดินกับต่างประเทศ แลกเปลี่ยนกับการลงทุนในลักษณะของการให้กู้ยืมการเสี่ยงต่ำระยะสั้นเพียงแค่ 3 ปี เปิดโอกาสให้ฝรั่งสามารถเข้ามาจองครอบครองถาวรที่ดินในประเทศไทย ในขณะที่คนประเทศไทยในเมืองหลายชิ้นเองยังถูกไม่ให้ความสนใจให้ไม่มีเจ้าของในที่พักที่อาศัย ไม่มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในราคาที่ประชากรเข้าถึงได้ ส่วนพลเมืองในชนบทเยอะมากก็ยังเข้าไม่ถึงสิทธิในที่ดินในการเลี้ยงชีพ ก็เลยต้องการเสนอว่าสิ่งที่รัฐบาลควรจะมุ่งทำมากยิ่งกว่าในขณะนี้ เป็น
แบ่งสรรเจ้าของสำหรับในการใช้ประโยชน์บนที่ดินของเมือง ให้แก่ราษฎรที่ยังเข้าไม่ถึงที่ดินทำกินได้เข้าไปดำรงชีพ เพื่อสร้างรายได้ และก็สร้างการหมุนเวียนทางด้านเศรษฐกิจ
รองผู้ประกาศพรรคเพื่อไทย กล่าวถัดไปว่า รัฐบาลอาจจะยังไม่รู้เรื่องว่า การดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศป้อมปราการคงจะรวมทั้งมีผลบวกระยะยาว จำต้องขจัดปัญหาที่ข้อกำหนดของข้อบังคับที่วุ่นวายยุ่งยาก และก็การขาดกติกาทางด้านเศรษฐกิจระหว่างชาติที่จะสามารถช่วยขยายขนาดของตลาดผู้บริโภคจากการสร้างในประเทศไทย ให้ไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับเพื่อการส่งออกของภูมิภาคที่จริงจริง แม้กระนั้นการกระตุ้นในแบบที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องการทำ เป็นการเอาสินทรัพย์ถาวรของชาติไปแลกเงินกู้ยืมเงินลงทุนระยะสั้น ไม่ทำให้เกิดการผลิตเศรษฐกิจป้อมคงจะในระยะยาว
ก่อนหน้านี้รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ ได้พิสูจน์แก่สายตาประชากรแล้วว่าเป็นรัฐบาลที่ล้มเหลวสำหรับเพื่อการสร้างเศรษฐกิจ เงินกู้ยืมลงทุนที่กู้มามากมายแค่ไหนก็จมหายไปกับแนวทางแจกเงินที่ไม่ประดิษฐ์ ไม่ส่งผลให้เกิดการหมุนรอบซ้ำของเงินต่อด้วยตัวเอง เนื่องจากว่าขาดการผลิตสิ่งแวดล้อมทางด้านเศรษฐกิจที่ดี ให้คนต้องการลงทุน ต้องการใช้จ่าย ต้องการประกอบธุรกิจต่อ กลับกันพล.อ.ประยุทธ์มุ่งแต่ว่าทำให้ราษฎรติดอยู่ที่ความหวาดกลัว ความไม่มีหวัง และไม่มองเห็นอนาคตที่ดียิ่งกว่าของตนเอง
โดยเหตุนี้ พล.อ.ประยุทธ์จำเป็นต้องเลิกบริหารเศรษฐกิจ ด้วยการเอาผลตอบแทนประเทศมาแลกเปลี่ยนการลงทุนจากต่างประเทศรวมทั้งทุนใหญ่ เพราะว่ากรรมวิธีนี้มีแม้กระนั้นจะขยายความแตกต่างในประเทศ รวมทั้งผูกขาดการลงทุนไว้ที่ชนหมู่น้อยในสังคม ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลพวกเราจะมุ่งสร้างความพร้อมเพรียงด้านเศรษฐกิจแบบองค์รวม ให้ราษฎรทุกคนเข้าถึงจังหวะสำหรับเพื่อการทำธุรกิจ เปิดประตูการประลอง รวมทั้งปลุกความริเริ่มคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆให้กับการลงทุนในประเทศ